หลักฐานใหม่ “เกย์อำมหิต” ฆ่าหมกศพคู่ขา โผล่ร้านมือถือ แม่บ้านยังสยองไม่กล้าทำความสะอาด

หลักฐานใหม่ “เกย์อำมหิต” ฆ่าหมกศพคู่ขา โผล่ร้านมือถือ แม่บ้านยังสยองไม่กล้าทำความสะอาด

ชุดสืบพบหลักฐานใหม่ คดีเกย์โหด ชายใส่เสื้อฮูดสีดำ ฆาตกรรมหนุ่มใหญ่พ่อค้าเสื้อ ปาดคอ แทงร่างพรุน 15 แผล เบาะแสใหม่ไปเร่ขายมือถือคนตายย่านปทุมธานี เจ้าของร้านจำหน้าได้จากในข่าว ก่อนโร่แจ้งตำรวจตรวจสอบ

กำลังเป็นเบาะแสสำคัญที่จะช่วยไขคดีการเสียชีวิตของ นายไพศาล ทองอ่อน อายุ 54 ปี ซึ่งถูกพบเป็นศพถูกฆ่าปาดคอ ร่างกายมีรอยแผลจากการถูกของมีคมกว่า 15 บาดแผลทั่วร่างกาย เหตุเกิดบนคอนโดชั้น 6 ย่านงามวงศ์วาน จ.นนทบุรี เมื่อล่าสุด เพจโหนกระแส รายงานการพบเบาะแสใหม่ในคดี หลังผู้ต้องสงสัยนำโทรศัพท์มือถือคนตายไปขายต่อ ที่ร้านรับซื้อแห่งหนึ่งใน จ. ปทุมธานี

จากรายงานระบุ ผู้ต้องสงสัยนำมือถือของผู้ตายไปขายโดยใช้บัตรประชาชนปลอมในการทำธุรกรรม โดยเจ้าของร้านจดจำใบหน้าได้ว่าบุคคลดังกล่าวที่นำมือถือมาขาย ลักษณะคล้ายจะเป็นคนเดียวกับในข่าวฆาตกรรมโหดที่คอนโดย่านงามวงศ์วาน

ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้ เนื่องจากบัตรปชช. เป็นใบปลอม แต่เจ้าหน้าที่จะสอบปากคำเจ้าของร้านมือถือในฐานะพยาน เพื่อขยายผลหาตัวผู้ต้องสงสัยต่อไป

คดีเกย์โหด คอนโดย่านงามวงศ์วาน

ภาพ Facebook @HKS2017
นายไพศาล ผู้ตาย คดีเกย์โหด

นายไพศาล ผู้ตาย (แฟ้มภาพ @ลุยชนข่าว ช่อง8)

ขณะเดียวกันบรรยากาศที่คอนโดที่เกิดเหตุย่านงามวงศ์วาน แม่บ้านทำความสะอาด เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้เข้ามาช่วยเหลือทำความสะอาดภายในห้องที่เกิดเหตุตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม หลังจนท.ของมูลนิธิฯ กลับไป ทางพนักงานทำความสะอาดในคอนโดยังไม่มีใครกล้าเข้าไปทำความสะอาด

แม่บ้านที่ให้ข้อมูลถึงกับเอ่ยปากต่อหน้านักข่าว ต่อให้จ้างเป็นเงินจำนวน 30,000 บาท ก็ไม่มีใครกล้ารับทำ โดยปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้เคลีรย์พื้นที่เบื้องต้น ด้วยการถอดบานกระจกหน้าต่างของห้องพักริมระเบียงออกทั้งหมด เพื่อเปิดพื้นที่ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก

เกย์โหด หมกศพคู่ขาย่านงามวงศ์วาน

ชายยฮู้ดดำ ผู้ต้องสงสัย (แฟ้มภาพ)

ทั้งนี้ มูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุยังต้องรอข้อเท็จจริงหลังจากมีการเร่งติดตามตัวผู้ต้องสงสัยอีกครั้ง โดยจากการให้ข้อมูลล่าสุดจากเพื่อนผู้ตาย ยังปักใจเรื่องการประสงค์ต่อทรัพย์.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง


ขอบคุณเนื้อหาจาก Thaiger https://thethaiger.com/th/news/1152407/