ออกหมายจับ ‘โชเฟอร์’ รถบัสนักเรียนไฟไหม้ ตร.ลั่นคนขับ-บริษัทต้องถูกดำเนินคดี

1 ต.ค.2567 – พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. และ รรท.ผบ.ตร. เปิดเผยหลังเจ้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้รถทัศนศึกษานักเรียนว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างยิ่ง จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดสาเหตุที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุครั้งนี้เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเกิดจากยางรถระเบิดทำให้เกิดประกายไฟและมีถังแก๊สซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอยู่ในรถดังกล่าวทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วเข้าไปยังห้องโดยสารอย่างรวดเร็ว โดยภายในรถคันทีาเกิดเหตุมีครูจำนวน 6 คน เด็กนักเรียน 39 รวมจำนวน 45 คน

ส่วนคนขับที่หลบหนีไปหลังเกิดเหตุได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพร้อมกับบริษัทเพื่อนำมาประกอบการสอบสวนนำไปสู่การออกหมายจับอยู่ระหว่างการสอบสวนและติดตามและพนักงานขับรถเป็นคนที่บริษัทส่งมาหรือไม่อย่างไร ต้องตรวจสอบอีกครั้งซึ่งขณะนี้เรากำลังทุ่มสัพพะกำลังในการกู้ภัยและดูแลเด็ก ส่วนผู้ที่เสียชีวิตยืนยันว่าพบร่างแต่ยังไม่ยืนยันจำนวน อยู่ระหว่างถอดเบาะที่นั่งเพราะยังพบว่ายังมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ข้างใน

รรท.ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ขั้นตอนหลังจากนี้เมื่อนำร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดออกมา จะนำไปที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ โดยได้สั่งการไปยังพล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ. ให้ร่วมมือกับแพทย์นิติเวช ในการเก็บดีเอ็นเอของร่างผู้เสียชีวิตและจะได้ประสานกับทางญาติหรือผู้ปกครองโดยสายเลือดเพื่อนำดีเอ็นเอไปเปรียบเทียบ และต้องตรวจให้เสร็จสิ้นโดยเร็วภายใน 2 วันเพื่อให้ญาตินำศพผู้เสียชีวิตกับไปดำเนินตามประเพณี

เช่นเดียวกันในการตรวจสอบรถเจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจพิสูจน์เพราะสภาพรถเราเจอตอนเกิดเหตุโดนเพลิงไหม้อย่างรุนแรงต้องตรวจสอบว่าสภาพรถมีความพร้อมในการแก้ไขเมื่อเกิดเหตุเบื้องต้นหรือไม่ เพราะอยู่ในเงื่อนไขขั้นตอนความประมาทหรือไม่ การดำเนินคดีต้องสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเกิดจากความประมาทของคนขับและบริษัทหรือไม่อย่างไร หากไม่มีอุปกรณ์ในการป้องกันแสดงว่าไม่มีความพร้อมในการที่จะแก้ปัญหาเมื่อเกิดเหตุเบื้องต้นซึ่งจะเข้าข้อกฎหมายเรื่องประมาท อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ทั้งคนขับและบริษัทต้องถูกดำเนินคดี

“การติดตามตัวคนขับทราบว่าพนักงานขับรถอยู่ที่จังหวัดสิงห์บุรีไม่ใช่เรื่องยากในการติดตามและจะเล่นติดตามให้เร็วที่สุด เรามีวิธีในการสืบสวนสอบสวนยืนยันไม่มีการให้การช่วยเหลือกันอย่างเด็ดขาด”รรท.ผบ.ตร.กล่าว


ขอบคุณเนื้อหาจาก ไทยโพสต์ https://www.thaipost.net/general-news/666404/