จาร์ราด แบรนธ์เวต กำแพงเหล็กสายเลือดใหม่ของ เอฟเวอร์ตัน – OPINION

นับตั้งแต่กลับมาจากการเล่นด้วยสัญญายืมตัวกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ในศึกเอเรเดวิซีลีก ฮอนแลนด์ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา จาร์ราด แบรนธ์เวต กองหลังดาวรุ่งมากพรสวรรค์ชาวอังกฤษ ก็กลายเป็นหัวใจสำคัญในแนวรับของ เอฟเวอร์ตัน ในปีนี้ไปเรียบร้อยแล้ว

ในซีซันที่แล้ว เซ็นเตอร์แบ็ควัย 21 ปี ลงสนามให้กับ พีเอสวี ไปรวมทุกรายการมากถึง 36 เกม ซัดไป 4 ประตู พร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ และตอนนี้ ฌอน ไดช์ กุนซือ เอฟเวอร์ตัน ก็มองว่า แบรนธ์เวต จะเป็นตัวหลักของทีมในชุดปัจจุบัน และในอนาคตระยะยาว

ไดช์ กล่าวถึง แบรนธ์เวต ที่ไม่ได้ลงเล่นใน 2 เกมแรกของฤดูกาลที่ เอฟเวอร์ตัน พ่ายแพ้ว่า “เขาโชคร้ายมากในช่วงปรีซีซั่น เขาพลาดช่วงพรีซีซั่นไปสองสัปดาห์ครึ่ง นั่นอาจทำให้เขามีโอกาสที่จะเดินหน้าต่อไป และเริ่มต้นฤดูกาลได้ แต่เมื่อเขาฟิตสมบูรณ์ เขาก็คว้าโอกาสไว้ทันที”

แบรนธ์เวต อายุเพียง 21 ปี และยังคงถือเป็นนักเตะหน้าใหม่ในศึก พรีเมียร์ลีก แต่เจ้าตัวก็แสดงให้เห็นแล้วว่า สามารถรับมือกับการเล่นในลีกสูงสุดของอังกฤษได้ และทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างแข็งแกร่งเกินวัย

แบรนธ์เวต ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกเมื่อซีซัน 2019-2020 โดยลงสนามไป 4 เกม ก่อนจะถูกปล่อยไปเก็บเกี่ยวประสบกาณ์กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในปีต่อมา จากนั้น ในซีซัน 2021-2022 ก็ลงเล่นในลีกไป 6 เกม โดยทำได้ 1 ประตู

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ปราการหลังเลือดผู้ดี ยังไม่ใช่ผู้เล่นตัวหลักของ เอฟเวอร์ตัน ก่อนที่จะพัฒนาฟอร์มตัวเองจนก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริงในซีซันนี้ โดยรับบทเซ็นเตอร์ฮาล์ฟฝั่งซ้านจับคู่กับ เจมส์ ทราคอฟสกี้ กองหลังรุ่นพี่ได้อย่างเข้าขาลงตัว

ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ไปเล่นกับ พีเอสวี ของกุนซือ รุด ฟาน นิสเตลรอย ด้วยสัญญายืมตัว แบรนธ์เวต ได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในกองหลังที่สมบูรณ์แบบ โดยมีอัตราการจ่ายบอลสำเร็จอยู่ที่ 87.2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอยู่ในอันดับที่สูงที่สุดในทีม

ไดช์ กล่าวต่อว่า “เรามีรายงานที่ดีเกี่ยวกับเขา ผมคุยกับเขาทางโทรศัพท์ 2-3 ครั้ง เราไม่ได้คุยอะไรกันมากนัก ผมแค่อยากให้เขารู้ว่า ผมดูเขาอยู่ และผมรู้สึกพอใจฟอร์มของเขา และบอกเขาว่า ประตูยังคงเปิดกว้างเสมอ เรายังคงอยากให้เขารักษาระดับการฝึกซ้อมเอาไว้ และปล่อยให้เขาเรียนรู้ในสนามด้วยตัวเอง”

“สำหรับตอนนี้โฟกัสของเขาจะอยู่ที่การยืนตำแหน่ง แท็คติก ความเข้าใจด้านต่างๆ ที่หลายๆ คนอาจพลาดไป แต่สิ่งเหล่านั้นสามารถสร้างความแตกต่างได้ในระดับสูงสุดได้ รวมถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ผมรู้ในฐานะที่เคยเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟมาก่อน”

“ส่วนใหญ่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเล่นอยู่ในโซนรับของตัวเอง ยกตัวอย่าง ไม่ใช่แค่การบืบพื้นที่ เพราะเมื่อบอลหลุดไปแล้ว คุณจะสามารถกลับเข้าไปในพื้นที่สำคัญของตัวเองหรือไม่ สิ่งต่างๆ เหล่านั้น คุณต้องเรียนรู้อย่างรวดเร็ว”

“ในด้านแท็คติก และทางเทคนิค แบรนธ์เวต กำลังพัฒนาขึ้นมาก รวมถึงสภาพร่างกาย ตอนนี้เขาเป็นนักเตะในระดับพรีเมียร์ลีก และในด้านจิตใจ เขามีทุกสิ่งที่จำเป็นในการประสบความสำเร็จ เขาทำงานหนักในเกมของเขา เขารับฟัง เขาเป็นคนใจกว้างมากและเพลิดเพลินกับฟุตบอลของเขา” ไดช์ กล่าวทิ้งท้าย

หลังหมดยุคของ เวย์น รูนีย์ ไป เอฟเวอร์ตัน แทบไม่มีดาวรุ่งที่แจ้งเกิดขึ้นมาเป็นนักเตะระดับแนวหน้าได้เลย และบางที แบรนธ์เวต กำลังจะสร้างเส้นทางของตัวเองเพื่อเดินไปสู่จุดนั้นในอนาคต

ขอบคุณเนื้อหาจาก 90min.com
https://www.90min.com/th/posts/opinion-Jarrad-Branthwaite-new-great-wall-for-everton