
เปิดชีวิตปัจุบัน “สามีเด็ก” หลังเมียรักที่แก่ว่า 47 ปี จากไปพร้อมคำอำลา ประโยคเดียวฟังแล้วสะอื้นหนัก
เรื่องราวความรักระหว่าง “เว่ย” ชายหนุ่มที่อาศัยอยู่ในกว่างซี ประเทศจีนกับ “ลัม” หญิงวัย 80 ปี กำลังสร้างความฮือฮาในชุมชนออนไลน์ ของชาวจีน มีทั้งคำวิพากษ์วิจารณ์เชิงตำหนิ รวมไปถึงความชื่นชมด้วย
เว่ย กุ้ยเซียง ชายหนุ่มที่มีสายตาไม่ดีมาตั้งแต่เด็ก ในช่วงเช้าเขาจะมองเห็นได้เพียงเลือนลาง งานประจำวันของเขาคือทำฟาร์มกับพ่อแม่ และในเวลาว่างจะขึ้นไปบนภูเขาเพื่อเก็บฟืน ความสุขเพียงอย่างเดียวของเขาคือการร้องเพลง โดยเฉพาะเพลงพื้นบ้าน เสียงอันไพเราะของเขาจึงมักดังก้องไปทั่วบริเวณภูเขาและป่าไม้
เมื่อเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แม้ว่าพ่อแม่จะขอให้แม่สื่อช่วยหาภรรยาให้ลูกชายหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีใครเต็มใจที่จะให้ลูกสาวของเขาแต่งงานกับคนพิการ ไม่ต้องพูดถึงว่าครอบครัวของเว่ยมีฐานะยากจนมาก ในขณะที่ตัวชายหนุ่มเองก็ไม่สนใจความรัก แต่กลับมองว่าการร้องเพลงคือความสุขของชีวิต
นางลัม เกิดในครอบครัวที่ยากจนซึ่งมีพี่น้องจำนวนมาก อาศัยอยู่ในหมู่บ้านติดกับเว่ย ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เธอถูกขายให้กับครอบครัวเศรษฐีเพื่อทำงานเป็นคนรับใช้ เมื่ออายุ 16 ปี เธอถูกบังคับให้แต่งงานกับลูกชายของเจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นชายหนุ่มที่มีความบกพร่องทางจิตใจ ไม่กี่ปีหลังจากบุคคลนี้เสียชีวิต เธอก็ถูกไล่ออกจากงานเพราะ “ฆ่าสามี”
เมื่อกลับมาถึงบ้านพ่อแม่ หญิงสาววัย 20 ปีก็รู้สึกเหมือนคนแปลกหน้า เพราะครอบครัวของเธอไม่ต้อนรับหญิงม่าย ต่อมาพ่อแม่จึงจัดให้เธอได้แต่งงานกับชายชราในหมู่บ้าน แต่เนื่องจากผ่านมาหลายปีแล้วยังไม่มีลูก จึงถูกสามีรังแกและถูกครอบครัวของเขาปฏิเสธอยู่บ่อยครั้ง เธอไม่อาจทนได้อีกต่อไป จึงหนีไปที่ภูเขา กางเต็นท์ และดำเนินชีวิตไปวันๆ
วันหนึ่งขณะกำลังลงจากภูเขา เธอบังเอิญได้ให้ความช่วยเหลือชายคนหนึ่งที่บาดเจ็บ ชายคนนั้นคือเว่ย และหลังจากเกิดอุบัติเหตุ เขาก็ยังคงเดินขึ้นภูเขาเพื่อเก็บฟืน และมักร้องเพลงเพื่อคลายความเศร้าโศก ซึ่งเธอก็ถูกเสียงนั้นสะกดวันแล้ววันเล่าสุดท้ายทั้งสองก็กลายเป็นเพื่อนชาวไร่ชาวนา พูดคุยและทำอาหารร่วมกัน
ความห่วงใยของหญิงชราเปรียบเสมือนแสงสว่างที่ส่องเข้าสู่หัวใจที่เย็นชาของเว่ย เป็นเวลาหลายปีแล้วที่เธอเป็นบุคคลเดียวที่ไม่รังแกหรือหัวเราะเยาะเขา เธอเป็นคนเพศตรงข้ามที่เว่ยมีการติดต่อด้วยมากที่สุด ความรู้สึกของชายหนุ่มจึงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ความปรารถนาสูงสุดของเขาในเวลานั้นคือการได้อยู่กับผู้หญิงคนนี้ทุกวัน
ในฤดูหนาวปี 1989 เว่ยตัดสินใจสารภาพรัก แต่ตอนนั้นเขาเพิ่งอายุ 24 ปี แต่เธออายุอายุ 71 ปีแล้ว ตอนแรก หญิงชราคิดว่าชายหนุ่มกำลังล้อเล่น และแนะนำให้เขากลับบ้านไปหาภรรยาที่อายุน้อยกว่า แต่เว่ยก็ยังคงพยายามอย่างมาก โดยมาเล่นที่บ้านของเธอทุกวัน และยังไปตลาดด้วยตัวเองเพื่อทำอาหารจานโปรดของเธออีกด้วย เขายังยืนยันเสมอว่าเธอคือคนแรกที่เขารัก
ในที่สุด ด้วยความจริงใจของชายหนุ่ม หญิงที่เคย “แต่งงานมาแล้วสองครั้ง” ก็ได้รู้สึกซาบซึ้งใจอีกครั้งกับความรักของชายที่อายุน้อยกว่าเธอ 47 ปี แม้จะใจตรงกันแล้ว อย่างไรก็ตามเรื่องราวความรักของพวกเขาต้องเผชิญกับพายุมากมาย ด้วยเหตุที่ทั้งคู่มีอายุห่างกันมาก ทำให้กลายเป็นประเด็นนินทาของผู้คนในบริเวณนั้น
เมื่อสามีคนที่สองของนางลัมได้ยินข่าวนี้ เขามาขู่อดีตภรรยาของเขาว่า “ทำให้ครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างน่าละอาย” พ่อแม่ของเว่ยก็ไม่ยอมรับเช่นกัน พวกเขาถึงขั้นมาที่บ้านเพื่อก่อเรื่อง แต่เว่ยกลับยืนขึ้นเพื่อหยุดพวกเขาและยอมรับการถูกตีเพียงคนเดียว ต่อมา เว่ยได้ย้ายมาอาศัยอยู่กับนางลัมในบ้านบนภูเขา ทำงานร่วมกันในทุ่งนาและเก็บฟืนทุกวัน เมื่อหมดอาหารก็กลับไปที่ภูเขาเพื่อขุดมันฝรั่ง ผักป่า และตักน้ำจากลำธาร
ภรรยายังได้สอนสามีวิธีไสไม้ไผ่และสานตะกร้าเพื่อขายที่ตลาดอีกด้วย ผู้หญิงคนนี้พยายามประหยัดเงินอยู่เสมอ ด้วยความหวังว่าจะมีเงินมารักษาดวงตาของสามี แต่หลังจากการตรวจหลายครั้งแพทย์สรุปว่า ตาของเว่ยไม่สามารถรักษาได้ นางลัมรู้สึกหมดหนทางจึงเก็บเงินนั้นเอาไว้ โดยหวังว่าสามีของเธอจะอยู่ได้ดีโดยไม่มีเธออยู่เคียงข้าง
แม้ว่าครอบครัวคนรักของเธอจะไม่ยอมรับเธอ แต่นางลัมก็ยังคงไปเยี่ยมและสอบถามถึงทุกคนอยู่บ่อยครั้ง เมื่อพ่อแม่ของเว่ยป่วย เธอก็ดูแลพวกเขาด้วย ท้ายที่สุดเมื่อเห็นความทุ่มเทของลูกสะใภ้ พวกเขาจึงค่อยๆ ยอมรับความสัมพันธ์นี้
ในเดือนกันยายน พ.ศ.1992 เจ้าหน้าที่สำนักงานกิจการพลเรือนท้องถิ่นได้เดินทางมาที่บ้าน เพื่อจดทะเบียนสมรสให้ทั้งคู่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทั้งสองได้กลายเป็นสามีภรรยาที่ได้รับการรับรองตามกฎหมายอย่างเป็นทางการ
ในปี 2003 เรื่องราวความรักของทั้งคู่โด่งดังไปทั่วประเทศจีนเมื่อผู้กำกับมาเยี่ยมบ้านของพวกเขา และสารคดีเรื่อง “Love on the Mountain” จึงถือกำเนิดขึ้น ต่อหน้ากล้อง ภรรยาเล่าทั้งเรื่องราวดีๆ และร้ายๆ ของทั้งคู่ด้วยความเขินอาย ในขณะที่สามีนั่งอยู่ด้านหลังและหวีผมให้เธออย่างอ่อนโยน
16 ปีผ่านไปรวดเร็วมาก ภรรยาในวัย 87 ปี และสามีอายุ 40 ปี ทั้งคู่ยังคงใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งใดๆ เกิดขึ้น แต่ยิ่งภรรยาอายุมากขึ้น เธอก็ยิ่งเป็นกังวลมากขึ้นว่า“ถ้าฉันจากไปก่อน สามีฉันจะอยู่คนเดียวอย่างไร?”
เมื่อกลางปี 2008 ขณะยืนอยู่ที่สนามหญ้า นางลัมก็ล้มลงกะทันหัน ขณะนอนอยู่ในอ้อมแขนสามี เธอบอกว่าการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมานาน 16 ปีนั้นเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของเธอ “ถ้ามีชาติหน้าก็หวังว่าเราจะได้พบกันอีกครั้งและเป็นสามีภรรยากันต่อไป” คำกล่าวอำลาสั้นๆ นี้ทำให้สามีสะอื้นอย่างหนัก
หลังจากภรรยาเสียชีวิต ชายผู้นี้ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านบนภูเขา ทำงานประจำวันที่ทั้งคู่เคยทำด้วยกัน บางครั้งเว่ยจะมาที่หลุมศพของภรรยาและร้องเพลง แต่เสียงของเขากลับไม่ร่าเริงเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป….
ขอบคุณเนื้อหาจาก sanook.com https://www.sanook.com/news/9769130/?utm_source=linetoday&utm_medium=organic&utm_campaign=linetoday-direct