
เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ห้องพิจารณาคดี 714 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานครั้งที่ 2 ในคดีดำ อทย.109/2568 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม กับพวกรวม 7 คน ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงเงิน นางสาวจตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย เศรษฐีนีชาวไทย กว่า 100 ล้านบาท
ในวันนี้ ศาลได้เบิกตัวทนายตั้มกับพวกรวม 4 คน จากเรือนจำมาศาล ส่วนจำเลยอีก 3 คน ซึ่งเป็นพี่สาวภรรยา และเจ้าหน้าที่โชว์รูมรถยนต์ 2 คน ได้รับการประกันตัว
ในการตรวจพยานหลักฐานและกำหนดวันนัดสืบพยานวันนี้ ปรากฏว่า จำเลยที่ 3 และที่ 4 ได้ขอถอนคำให้การเดิม และให้การใหม่เป็นรับสารภาพตามฟ้องบางส่วน โดยในข้อหาอื่นยังคงให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่ได้กระทำผิด ซึ่งศาลได้อนุญาตตามคำร้องของจำเลย
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นสมควรให้นัดสืบพยานโจทก์จำนวน 15 นัด และสืบพยานจำเลยจำนวน 4 นัด รวมสืบพยานทั้งหมด 19 นัด โดยศาลจะพิจารณาคดีติดต่อกันโดยไม่เลื่อน เมื่อสืบพยานโจทก์และโจทก์ร่วมเสร็จสิ้นแล้ว จะทำการสืบพยานจำเลยต่อทันที โดยให้โจทก์ โจทก์ร่วม และจำเลย เตรียมพยานมาให้พร้อมในวันนัด และให้คู่ความปฏิบัติตามคำสั่งศาลอย่างเคร่งครัด โดยศาลได้นัดสืบพยานโจทก์ปากแรกในวันที่ 4 มีนาคม 2569 เวลา 09.00 น.
ขณะที่ นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า “งานเข้า ทนายตั้ม ‼ ล่าสุด นุ-สา อดีตคนสนิท กลับคำให้การ รับสารภาพตามคำฟ้องโจทก์ ศาลนัดสืบพยานโจทก์ปากแรก 4 มี.ค. 69” ซึ่งเป็นการยืนยันถึงการกลับคำให้การของจำเลยที่ 3 และ 4 ในคดีนี้
ขอบคุณเนื้อหาจาก เดลินิวส์ https://www.dailynews.co.th/news/4654158/