
จากสื่อต่างประเทศ ได้รายงานว่า กลายเป็นประเด็นร้อนที่หลายคนให้ความสนใจ เมื่อมีรายงานว่าลูกชายวัย 21 ปี ของอดีตนางเอกและนักร้องดังผู้ล่วงลับ มิโฮะ นากายามะ ตัดสินใจไม่ขอรับมรดกมูลค่าสูงถึง 450 ล้านบาท ที่คุณแม่ทิ้งไว้ให้ ทำเอาแฟน ๆ ทั่วเอเชียถึงกับงงกับเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจครั้งนี้
ล่าสุด ซู เจียหง ทนายความชื่อดังชาวไต้หวัน ได้ออกมาให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว อธิบายถึงเหตุผลที่เป็นไปได้ในการตัดสินใจของลูกชายมิโฮะ โดยมองจากทั้งมุมมองทางกฎหมายและความสัมพันธ์ส่วนตัว
ทนายซู เจียหง ระบุว่าการที่ลูกชายวัย 21 ปีของมิโฮะเลือกที่จะไม่รับมรดกนั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ไม่ยาก ทั้งในแง่ของข้อกฎหมายและความสัมพันธ์ที่ห่างเหิน เขายังเผยอีกว่า มรดกส่วนใหญ่ของมิโฮะนั้นไม่ได้เป็นเงินสด แต่กลับเป็นของสะสมล้ำค่าจำพวก นาฬิกาหรู, เครื่องประดับ รวมถึง ลิขสิทธิ์ผลงานเพลง ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ค่อนข้างซับซ้อนในการเปลี่ยนเป็นเงินสด
นอกจากนี้ ทนายซู เจียหง ยังได้ชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ห่างเหินระหว่างมิโฮะและลูกชายที่ไม่ได้ติดต่อกันมานานกว่า 10 ปี ทำให้ทรัพย์มรดกเหล่านี้อาจไม่ใช่สิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจสำหรับลูกชาย แต่กลับกลายเป็นภาระทางอารมณ์มากกว่า
ที่สำคัญคือเรื่องของ ภาษีมรดก ในประเทศญี่ปุ่นที่สูงถึง 55% หากมรดกของมิโฮะมีมูลค่าตามที่คาดการณ์ไว้ที่ 2 พันล้านเยน (ประมาณ 450 ล้านบาท) นั่นหมายความว่าลูกชายจะต้องแบกรับภาระภาษีมหาศาล ยิ่งไปกว่านั้น การที่ลูกชายอาศัยอยู่ที่ฝรั่งเศส การรับมรดกข้ามประเทศย่อมมีขั้นตอนทางกฎหมายที่ซับซ้อนและยุ่งยาก ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเหตุผลที่หนักแน่นพอที่ทำให้เขาตัดสินใจไม่รับมรดก
ทนายซู เจียหง ทิ้งท้ายไว้อย่างน่าคิดว่า “ทุกการปฏิเสธมรดก ไม่ได้สะท้อนแค่เรื่องกฎหมายหรือเงินทอง แต่มันสะท้อนถึงการขาดหายของความรัก และความสัมพันธ์ที่ขาดสะบั้นต่างหาก” ซึ่งทำให้หลายคนเข้าใจและไม่แปลกใจกับการตัดสินใจของลูกชายมิโฮะในครั้งนี้.
โดย มิโฮะ นากายามะ เสียชีวิตอย่างกะทันหันเมื่อเดือนธันวาคม 2024 สร้างความโศกเศร้าให้กับแฟนคลับจำนวนมาก และทันทีที่ข่าวการจากไปของเธอแพร่สะพัด เรื่องมรดกมหาศาลก็กลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการที่ลูกชายคนเดียวของเธอ ซึ่งพำนักอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส ปฏิเสธที่จะรับมรดกทั้งหมด
ขอบคุณเนื้อหาจาก News In Thailand http://www.news.in.th/view-27461.html