เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกรณีสุดสะเทือนใจ รถกระบะเสียหลักพุ่งเข้าชนร้านสเต็ก เป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย (คุณพ่อ) และน้องการ์ตูน วัย 5 ขวบ ได้รับบาดเจ็บสาหัสสมองได้รับการกระทบกระเทือน ล่าสุด (18 เม.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ร้านสเต็กคุณแม่การ์ตูน Mother’s Grill Steak House “ย่างด้วยรัก หมักด้วยใจ” หรือ น.ส.ศรัญญา ชำนิ แม่ของน้องการ์ตูน โพสต์คลิปพร้อมเผยเรื่องราวแสนเจ็บปวด คดีความกำลังหมดอายุความ แต่ชีวิตคนทำผิดยังคงลอยนวล เสพสุขเหมือนเดิมไร้ความรับผิดชอบ…

ข่าวที่น่าสนใจ

“เก้า จิรายุ” เผยที่มาความหล่อ ความเท่

หมายร่อน “เอแคลร์จือปาก” เตรียมฟ้องเกรียนคีย์บอร์ด ให้โอกาสจะมาคุยเองหรือให้ตามหาจนเจอ!

แม่ของน้องการ์ตูน ระบุว่า “ตอนที่แม่ตั้งท้องน้องการ์ตูน ตอนนั้นทั้งพ่อและแม่ช่วยกันทำงานหลากหลายอย่างเพื่อหาเงินเตรียมเลี้ยงลูกน้อยที่รัก ที่เฝ้าฟูมฟักอุ้มท้องมา 9 เดือน ถึงแม้จะไม่ได้ร่ำรวย แต่พ่อกับแม่ตั้งใจให้ลูกได้มีชีวิตที่ดี เราจึงเก็บหอบรอมริบวางแผนเพื่ออนาคตของลูก โดยไม่สนว่าเราจะต้องทำงานหนักและเหนื่อยแค่ไหน เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนก็คิดและทำในแบบเดียวกัน

พ่อกับแม่เลี้ยงน้องการ์ตูนตั้งแต่เกิด จนอายุ 5 ขวบ ตอนนั้นตูนเป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่าย ร่าเริง ช่างคุย เป็นกำลังใจและศูนย์รวมความรักของทั้งครอบครัว แต่หลังจากเกิดเหตุรถกระบะขับแข่งแล้วพุ่งชนเข้ามาในร้าน มันพรากชีวิตของพ่อไป พ่อที่เอาตัวบังและรับแรงกระแทกแทนลูก ก่อนจะสิ้นใจในที่เกิดเหตุต่อหน้าต่อตาแม่ แม่ทั้งช็อกและเสียใจจนทำอะไรไม่ถูก และต้องทุกข์ทรมานใจจะขาด ที่เห็นลูกแม่ต้องมาอยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสปางตาย หมอบอกโอกาสรอดมีเพียง 10% แม่ร้องไห้เหมือนคนเสียสติ สิ้นหวังในชีวิต อยู่ในจุดต่ำสุดของความคิด เฝ้าอยู่ข้างเตียงการ์ตูนจนเมื่อร่างกายตูนฟื้นฟูขึ้นมาได้อย่างปาฏิหาริย์ การ์ตูนสู้เพื่อมีชีวิตรอด แม่ก็ต้องสู้เพื่อดูแลตูนให้ดีที่สุดเช่นกัน

แต่ถึงอย่างนั้น การต่อสู้เพื่อให้ตูนมีชีวิตรอดต่อไปได้มันช่างยากลำบาก การใช้ชีวิตโดยที่คนเป็นแม่ไม่ได้ยินเสียงลูกเรียกแม่อีกเลยมายาวนานกว่า 10 ปี และต้องเห็นลูกที่กลายเป็นคนพิการติดตียง สมองเสียหาย ตาบอด พูดสื่อสารไม่ได้ อวัยวะภายในถูกตัดไปเรื่อยๆ เพื่อพยายามรักษาให้มีชีวิตรอด มันคือฝันร้ายที่ผ่านเข้ามาแล้วมันไม่มีวันหายไป แต่ทิ้งรอยบาดแผลหนักให้เราทั้งครอบครัว

แม่ต้องดิ้นรนต่อสู้ทุกข์ทรมานกับความอยุติธรรมมานานเกือบ 10 ปี จนปีนี้คดีความกำลังหมดอายุในวันที่ 19 ก.ย. 67 นี้ ชีวิตคนทำผิดยังคงลอยนวลเสพสุขเหมือนเดิม ต่างกับชีวิตของเหยื่อที่ยังเจ็บปวดทั้งทางกายและใจของทั้งคนอยู่และคนที่จากไป มันไม่ได้ถูกปลดล็อกจากอดีตเหมือนเดิม ตราบใดที่คนทำผิดไม่รับผิดชอบในความผิดตัวเอง”

#สเต็กแม่น้องการ์ตูน

#ขอบคุณทุกกำลังใจและความช่วยเหลือครอบครัวเรามาเสมอนะคะ

สำหรับคู่กรณี คือ น.ส.น้ำผึ้ง ใจเสงี่ยม ขับรถกระบะเสียหลักพุ่งเข้าชนร้านสเต็กลุงใหญ่ ปากซอยเอกชัย 119 ถนนเอกชัย แขวงและเขตบางบอน กรุงเทพฯ เมื่อคืนวันที่ 19 ก.ย. 2557 เป็นเหตุทำให้ นายภาณุทัต ศักดิ์สิทธิพันธ์ อายุ 42 ปี เจ้าของร้านสเต็กลุงใหญ่ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และ ด.ญ.นราศิริ ศักดิ์สิทธิพันธ์ อายุ 5 ขวบ ลูกสาวได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง

ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2558 ศาลอาญาธนบุรีพิพากษาจำคุก น.ส.น้ำผึ้่ง 2 ปี 6 เดือน เนื่องจากให้การรับสารภาพ แต่ไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน จึงลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา ปรับ 3,000 บาท และสั่งให้จำเลยชดใช้สินไหมทดแทนรวม 6,336,000 บาท แต่พบว่าแม้ น.ส.น้ำผึ้งออกมาจากคุกแล้ว แต่ทางครอบครัวของน้องการ์ตูนยังไม่ได้รับการติดต่อจากนางสาวน้ำผึ้ง และยังไม่ได้รับเงินชดใช้เยียวยาแต่อย่างใด

ล่าสุด เมื่อต้นปีที่ผ่านมาเฟซบุ๊กเพจ “อีซ้อขยี้ข่าว” ระบุว่า น.ส.น้ำผึ้ง เปิดร้านขายอะไหล่รถยนต์ เปลี่ยนชื่อจริงตัวเอง พร้อมกับภาพที่ น.ส.น้ำผึ้งมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี โดยเจ้าตัวเคยโพสต์ทำนองว่าปีหน้าต้องเป็นปีทองของตน เสียดายต้องมาเสียเวลากับแม่ลูกสเต็ก ไม่สงสารรถตนเลย อีกฝ่ายหนึ่งเห็นแก่ตัว บ่นไปอย่างนั้นแหละ ไม่จ่ายตามที่ขอแน่ ยืดเต็มอายุความ โดยที่ผ่านมาแม่ของน้องการ์ตูนเจอกับคู่กรณีที่โรงพักแค่ครั้งเดียวในวันเกิดเหตุเมื่อเดือน มิ.ย. 2557 ได้เงินเพียง 4 หมื่นบาท