
สุดเหี้ยม กองกำลังอิสราเอล ยิงใส่ฝูงชนมุ่งหน้ารับอาหารช่วยเหลือในกาซา ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 21 ราย บาดเจ็บอีก 175 คน
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน พยานหลายคนอ้างว่ากองกำลังอิสราเอลเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงใส่ฝูงชน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดแจกจ่ายอาหารของมูลนิธิที่อิสราเอลให้การสนับสนุนประมาณ 1,000 หลา
นายอิบราฮิม อาบู ซาอูด ชาวบ้านวัย 40 ปี ผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า “ทหารอิสราเอลยิงใส่ผู้คนที่กำลังมุ่งหน้าไปจุดแจกอาหาร มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก รวมถึงผู้หญิงด้วย พวกเราอยู่ห่างจากทหารแค่ประมาณ 300 หลาเท่านั้น” นายอาบู ซาอูด เล่าเพิ่มเติมว่า เขาเห็นผู้บาดเจ็บจำนวนมาก และมีชายหนุ่มคนหนึ่งเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ “พวกเราทำอะไรไม่ได้เลยเพื่อช่วยเขา” เขากล่าว
ส่วนนายโมฮัมเหม็ด อาบู เทอิมา วัย 33 ปี อีกหนึ่งพยาน ให้การว่า เขาเห็นทหารอิสราเอลยิงใส่ฝูงชน เป็นเหตุให้ญาติของเขาและผู้หญิงอีกคนเสียชีวิตขณะเดินทางไปยังจุดแจกอาหาร “พวกเขายิงมาอย่างหนักและตรงมาที่เราเลย” นายอาบู เทอิมา กล่าว ขณะยืนรอฟังข่าวผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลสนาม
ทว่า มูลนิธิกลับออกแถลงการณ์ว่าการแจกจ่ายความช่วยเหลือในช่วงเช้าของวันนั้นดำเนินไปอย่างไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องความวุ่นวายหรือการยิงกันในพื้นที่ของมูลนิธิ พร้อมระบุว่าพื้นที่ตั้งอยู่ในเขตควบคุมของกองทัพอิสราเอล ซึ่งการเข้าถึงโดยทั่วไปมีจำกัด
โรงพยาบาลสนามรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 175 แต่ไม่ได้ระบุฝ่ายที่ก่อเหตุยิง ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวสำนักข่าว Associated Press รายงานว่ามีผู้บาดเจ็บจำนวนมากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันใกล้จุดแจกจ่ายอาหาร ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย และบาดเจ็บกว่า 50 คน
ด้านมูลนิธิ Gaza Humanitarian Foundation ชี้แจงว่า บริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชนที่ดูแลพื้นที่ไม่ได้เป็นฝ่ายยิง มูลนิธิฯ เสริมว่า กองทัพอิสราเอลเคยยอมรับก่อนหน้านี้ว่ามีการยิงปืนเตือนเพื่อสลายฝูงชนในบางครั้ง แต่มูลนิธิยืนยันว่าได้แจกจ่ายความช่วยเหลือ 16 คันรถบรรทุกในช่วงเช้าโดยไม่มีเหตุรุนแรง และระบุว่ารายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากเป็น “ข้อมูลเท็จ”
ศูนย์แจกจ่ายอาหารที่เกิดเหตุเป็นส่วนหนึ่งของระบบการให้ความช่วยเหลือแบบใหม่ ซึ่งอิสราเอลและสหรัฐอเมริการ่วมกันจัดตั้งขึ้น มีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้ความช่วยเหลือตกไปถึงกลุ่มฮามาส
หน่วยงานของ UN และองค์กรให้ความช่วยเหลือหลายแห่งปฏิเสธที่จะเข้าร่วมระบบใหม่นี้ ชี้ว่าระบบขัดต่อหลักมนุษยธรรม เพราะเป็นการให้อิสราเอลควบคุมการแจกจ่ายความช่วยเหลือ และอาจบีบให้ประชาชนต้องย้ายถิ่นฐานเพื่อไปรับความช่วยเหลือ ซึ่งจะทำให้เกิดการพลัดถิ่นมากขึ้น
ข้อจำกัดต่างๆ จากอิสราเอล ประกอบกับความไร้ระเบียบและการปล้นสะดมที่เกิดขึ้นทั่วไปในพื้นที่ ทำให้การส่งความช่วยเหลือไปยังประชาชนราว 2 ล้านคนในฉนวนกาซาเป็นไปได้ยากยิ่ง ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ฉนวนกาซากำลังเสี่ยงต่อภาวะอดอยากรุนแรง หากไม่ได้รับความช่วยเหลือเพิ่มขึ้นอย่างเพียงพอ
ความขัดแย้งครั้งนี้ปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 เมื่อกลุ่มติดอาวุธนำโดยฮามาสบุกโจมตีภาคใต้ของอิสราเอล สังหารผู้คนกว่า 1,200 คน (ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน) และจับตัวประกันไป 251 คน ปัจจุบันคาดว่ายังมีตัวประกัน 58 คนถูกควบคุมตัว โดยเชื่อว่าประมาณหนึ่งในสามยังมีชีวิตอยู่
การปฏิบัติการทางทหารตอบโต้ของอิสราเอลในฉนวนกาซา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 54,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขกาซา (แม้จะไม่ได้จำแนกตัวเลขพลเรือนและนักรบ) สงครามได้สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างในฉนวนกาซา ทำให้ประชากรเกือบ 90% ต้องพลัดถิ่น และต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากนานาชาติเป็นหลักในการดำรงชีวิต
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขอบคุณเนื้อหาจาก Thaiger https://thethaiger.com/th/news/1409684/