กลายเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตต่างให้ความสนใจอย่างมากในตอนนี้ หลังจากที่ ‘ผิง ชญาดา’ นักร้องลูกทุ่งหมอลำสาว ต.บ้านแดง อ.พิบูลรักษ์ จ.อุดรธานี ไปนวดคอ บ่า ไหล่ ที่ร้านนวดแผนโบราณแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี 3 ครั้ง ซึ่งเธอบอกว่ามีการบิดคอ 2 ครั้ง ทำให้แขนและขาชาจนป่วยเป็นอัมพาต ติดเตียงและเป็นเจ้าหญิงนิทรา ก่อนที่จะเสียชีวิตเมื่อเช้าวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดมีรายงานว่า ร้านนวดที่ผิง ชญาดา มาใช้บริการนั้นมี นักวิชาการสาธารณสุข หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข หัวหน้ากลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกพร้อมคณะ เดินทางมาตรวจร้านนวดว่า มีใบขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ประเภทนวดเพื่อสุขภาพ
จากการตรวจสอบภายในร้านพบว่า หมอนวด 2 คน ที่มีใบขึ้นทะเบียน ส่วนอีก 5 คน อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ หากไม่มีใบขึ้นทะเบียนจะผิดกฎหมาย จะเป็นหมอนวดเถื่อน ไม่สามารถให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและเก็บข้อมูล ซึ่งในวันนี้ (9 ธ.ค. 67) นายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี จะแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์เอง
ด้านผู้จัดการร้านนวด ชี้แจงว่า ร้านนวดเปิดมาตั้งแต่ปี 2548 หมอนวดแผนโบราณที่ร้านมีจำนวนไม่แน่นอน แล้วแต่บางวัน บางครั้งก็ 10 คนบางครั้งก็เหลือ 4 -5 คน แล้วแต่จังหวะที่หมอนวดจะมีงานอื่น หมอนวดส่วนมากก็จะมาทำชั่วคราว คนที่จะมานวดเราก็จะตรวจสอบว่ามีใบอนุญาต มีการขึ้นทะเบียนหรือไม่ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ทำงานนานหรือไม่
ขณะเดียวกันในบ้านของ ผิง ชญาดา นั้นทางคุณแม่และญาติๆ ได้นำร่างของผิง ชญาดา มาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้าน ซึ่งแฟนหนุ่มของผิง ได้เปิดเผยว่า อยู่ดูแลจนผิงหมดลมหายใจไปต่อหน้า รู้สึกชาไปหมด ยังทำใจไม่ได้ ผิงฝันอยากเป็นศิลปิน ไปประกวดนักร้อง และอยากบอกผิงว่าไม่ต้องห่วง จะบวชให้
อย่างไรก็ตาม แฟนหนุ่มของผิงยังบอกอีกว่า ส่วนเรื่องจะฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายก็ยังไม่ได้คิด ทีแรกแม่จะไปแจ้งความ แต่ให้งานเสร็จก่อน เพราะยังติดใจการเสียชีวิต
ขอบคุณเนื้อหาจาก สยามนิวส์ https://www.siamnews.com/view-124288.html