เจอแล้วต้นตอแท้จริง “ร.ต.อ.หญิง-ลูกสาว” ดับ 3 ศพคาบ้าน ไม่ใช่โซดาไฟ

ความคืบหน้าเหตุเสียชีวิต 3 ศพในบ้านพักข้าราชการตำรวจ จ.ชลบุรี โดยรับแจ้งเหตุวันที่ 12 ส.ค. 2567 เวลาประมาณ 12.50 น. ท้องที่ สภ.เมืองชลบุรี สถานที่เกิดเหตุ บ้านพักข้าราชการตำรวจ ต.บางปลาสร้อย อ.เมือง จ.ชลบุรี ในตอนแรกคาดสาเหตุเป็นเพราะ โซดาไฟ แต่ล่าสุดตำรวจสรุปแล้ว เจอต้นตอที่แท้จริงเป็นอย่างอื่น

เจอแล้วต้นเหตุแท้จริง ร.ต.อ.หญิง-ลูกสาว ดับ 3 ศพคาบ้าน ไม่ใช่โซดาไฟ

เจอแล้วต้นเหตุแท้จริง ร.ต.อ.หญิง-ลูกสาว ดับ 3 ศพคาบ้าน ไม่ใช่โซดาไฟ

ผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย คือ

1. ร.ต.อ.หญิง อนัญญา บุษยากุล อายุ 60 ปี ตำแหน่ง รอง สว.สส.สภ.เมืองชลบุรี

2. น.ส.น.ส.จิตรพิสุทธิ์ บุษยากุล อายุ 34 ปี

3. น.ส.ปัณณิกา บุษยากุล อายุ 24 ปี

เจอแล้วต้นเหตุแท้จริง ร.ต.อ.หญิง-ลูกสาว ดับ 3 ศพคาบ้าน ไม่ใช่โซดาไฟ

เจอแล้วต้นเหตุแท้จริง ร.ต.อ.หญิง-ลูกสาว ดับ 3 ศพคาบ้าน ไม่ใช่โซดาไฟ

พฤติการณ์ของคดี จากการสอบถามพนักงานสอบสวนได้ความว่า บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี มีผู้พักอาศัยอยู่กัน 3 คน คือ ร.ต.อ.หญิง อนัญญา บุษยากุล อายุ 60 ปี ตำแหน่ง รอง สว.สส.สภ.เมืองชลบุรี กับบุตรสาว 2 คน คือ น.ส.จิตรพิสุทธิ์ บุษยากุล อายุ 34 ปี และ น.ส.ปัณณิกา บุษยากุล อายุ 24 ปี

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 ส.ค. 2567 เวลาประมาณ 09.45 น. น.ส.อภิชญา เพ็ชรหลำ อายุ 34 ปี เพื่อนสนิทของ น.ส.จิตรพิสุทธิ์ ได้ซื้อน้ำยาล้างท่อน้ำทิ้งมาให้ตามคำร้องขอของ ร.ต.อ.หญิง อนัญญา เนื่องจากท่อน้ำทิ้งในห้องน้ำของบ้านอุดตัน

ก่อนที่จะพบว่าทั้ง 3 คนแม่ลูกหมดสติอยู่ในห้องน้ำของบ้านพัก จึงได้รีบเรียกเพื่อนบ้านมาช่วยเหลือแต่ไม่ทันการณ์

ซึ่งในตอนแรกคาดสาเหตุเป็นเพราะว่าสูดดมสารโซดาไฟเข้าไปจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต

ล่าสุดวันที่ 13 สิงหาคม 2567 มีรายงานความคืบหน้า พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช. ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบช.สพฐ.ตร.) แถลงว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปเก็บวัตถุพยานหลักฐานในบ้านที่เกิดเหตุ พบผลิตภัณฑ์ล้างท่ออุดตันยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเป็นขวดสีขาวทึบ ฝาสีแดง ภายในถังขยะ ที่มีปริมาณของเหลวเหลืออยู่ก้นขวด ส่วนในห้องน้ำ พบผลิตภัณฑ์ล้างห้องน้ำ ยี่ห้อตามท้องตลาดทั่วไปที่ถูกใช้งานไปแล้วประมาณ 4 ขวด

“ต่อมาเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ไปหาซื้อผลิตภัณฑ์ล้างท่ออุดตันแบบเดียวกัน มาทำการตรวจพิสูจน์ พบว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นของเหลวสีดำ เป็นกรดซัลฟิวลิกที่มีความเข้มข้นสูง และไม่สามารถนำไปใช้ร่วมกับสารที่มีฤทธิเป็นด่าง โดยเฉพาะโซดาไฟได้ หากนำไปใช้ร่วมกันแล้วไปเจอสิ่งอุดตันภายในท่อจะทำปฏิกิริยา กลายเป็นก๊าซไข่เน่า มีควันพวยพุ่งขึ้นมา ในอดีตเคยมีกรณีการเสียชีวิตจากก๊าซไข่เน่ามาแล้ว” พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าว

และจากการสอบปากคำพยานทราบว่าน่าจะมีการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างท่ออุดตันไปประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ยังได้กลิ่นเหม็นไหม้รุนแรง และมีอาการแสบตา แสบจมูก และลักษณะของห้องน้ำในบ้านพบมีขนาดเล็ก กว้าง 1.2 เมตร ยาว 2.5 เมตร สูง 2.05 เมตร และมีช่องระบายอาการเพียงช่องเดียวขนาด 40 เซนติเมตร ขณะที่ประตูเป็นลักษณะผลักเข้าไปด้านใน จึงสันนิษฐานว่าหากมีคนเป็นลมติดอยู่ภายใน คนที่เข้าไปช่วยจะต้องปิดประตูเพื่อทำการช่วย ก็จะมีการสูดดมสารเคมีเข้าไปด้วย

พล.ต.ท.ไตรรงค์ยังบอกด้วยว่าผลิตภัณฑ์ที่พบดังกล่าวหาซื้อได้ยาก ไม่มีขายในห้างสรรพสินค้าทั่วไป แต่จะพบในร้านขายวัสดุก่อสร้าง เบื้องต้นพบว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีเลขทะเบียนอย. และไม่มีทะเบียนวัตถุอันตรายที่ใช้ในการสาธารณสุข

ทั้งนี้ยังคงรอผลชันสูตรอย่างละเอียดเพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดต่อไป


ขอบคุณเนื้อหาจาก TNews https://www.tnews.co.th/social/social-news/613008