
#SSxLaLiga | ฤดูกาล 2024/25 ของ ลาลีกา ปิดฉากลงแล้ว พร้อมช่วงเวลาสุดเร้าใจที่ตราตรึงใจแฟนบอลตั้งแต่เสียงนกหวีดเริ่มต้นในเดือนสิงหาคม จนถึงวินาทีสุดท้ายของเกมนัดที่ 38 ไม่ว่าจะเป็นประตูสำคัญที่สร้างประวัติศาสตร์ การแต่งตั้งกุนซือที่เปลี่ยนแปลงทีม ไปจนถึงการคัมแบ็คสุดมันส์ที่ชี้ชะตาแชมป์ เราไปย้อนดู 10 เหตุการณ์เด็ดที่สุดของฤดูกาลนี้พร้อมกัน
1. ประตูแรกของ เอ็มบัปเป้
คีเลียน เอ็มบัปเป้ ใช้เวลา 4 นัดกว่าจะยิงประตูแรกใน ลาลีกา ให้ เรอัล มาดริด ได้สำเร็จ และหลังจากนั้นก็ไม่มีใครหยุดเขาได้ ดาวยิงชาวฝรั่งเศสยิง 2 ประตูในเกมที่ มาดริด เปิดบ้านชนะ เรอัล เบติส 2-0 ในแมตช์เดย์ที่ 4 เมื่อเดือนกันยายน และยังยิงรวมได้ถึง 31 ประตูในลีก คว้าทั้งดาวซัลโว ปิชิชี่ และรางวัลรองเท้าทองคำยุโรปในฤดูกาลแรกกับราชันชุดขาว
2. บาร์เซโลน่า เปิดหัวด้วยชัยชนะเหนือราชันชุดขาวใน เอล กลาซิโก้
บาร์เซโลนา เริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยม โดยชนะ 9 จาก 10 นัดแรก และในแมตช์เดย์ที่ 11 พวกเขาบุกไปเยือนถิ่นของ เรอัล มาดริด ทีมแชมป์เก่าในขณะนั้น ครึ่งแรกมีโอกาสไม่มาก แต่ครึ่งหลัง บาร์ซ่า ระเบิดฟอร์มยิง 4 ประตูรวดชนะไป 4-0 โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยิง 2 ลูก ขณะที่ ลามีน ยามาล และ ราฟินญ่า ยิงคนละลูก เป็นชัยชนะที่แสดงพลังคุณภาพของทีมได้อย่างชัดเจน
3. โกร์เบราน พลิกสถานการณ์ บาเลนเซีย
วันที่ 25 ธันวาคม บาเลนเซียแต่งตั้ง คาร์ลอส โกร์เบราน เป็นกุนซือคนใหม่ หลังผ่าน 17 นัด ทีมจมบ๊วยของตาราง มีเพียง 12 แต้ม และดูเหมือนกำลังจะตกชั้น แต่ โกร์เบราน พาทีมคว้าชัย 9 นัด เสมอ 7 จาก 21 นัดสุดท้าย และยังมีลุ้นพื้นที่ยุโรปช่วงท้ายฤดูกาล กลายเป็นการคัมแบ็คที่ยอดเยี่ยมของเจ้าถิ่น เมสตายา
4. คัมแบ็คสุดเจ็บปวดสำหรับ แอตเลติโก้ มาดริด
เดือนมีนาคม การลุ้นแชมป์เริ่มเข้มข้น บาร์ซ่า ที่กำลังรั้งจ่าฝูง ส่วน แอตเลติโก้ ตามหลังเพียงแต้มเดียว หลังจากเคยเสมอกันมา 4-4 ใน โกปา เดล เรย์ ซึ่ง แอตเลติโก้ ก็เปิดบ้านรับมือคู่แข่งลุ้นแชมป์อีกครั้งในแมตช์เดย์ที่ 28 อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ และ ฮูเลียน อัลวาเรซ ยิงให้เจ้าถิ่นนำก่อน 2-0 แต่กลับโดน 2 ประตูจาก เฟร์ราน ตอร์เรส และอีกคนละ 1 ประตูจาก เลวานดอฟสกี้ และ ยามาล ช่วยให้ บาร์ซ่า พลิกชนะ 4-2 ทำลายขวัญกำลังใจของทัพตราหมีในการลุ้นแชมป์ลงอย่างราบคาบ
5. แฮตทริกที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ ลาลีกา
ในแมตช์เดย์ที่ 35 เมื่อ แอตเลติโก้ มาดริด พบกับ เรอัล โซเซียดัด ซอร์ลอธ ระเบิดฟอร์มยิง 3 ประตูในเวลาเพียง 11 นาทีแรกของเกม กลายเป็นแฮตทริกที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ ลาลีกา ก่อนจะยิงเพิ่มอีก 1 ลูกในนาทีที่ 30 ทำให้ แอตเลติโก้ นำขาดตั้งแต่ครึ่งแรก
6. การคัมแบ็คในศึก เอล กลาซิโก้ ที่แทบจะการันตีแชมป์
ช่วง 4 นัดสุดท้ายของฤดูกาล บาร์เซโลน่า ต้องชี้ชะตากับ เรอัล มาดริด ในศึก เอล กลาซิโก้ แมตช์เดย์ 35 ที่สนามเสาตาดี้ โอลิมปิก กับช่องว่าง 4 แต้ม หาก มาดริด ชนะจะเปิดโอกาสลุ้นแชมป์ทันที ซึ่ง เอ็มบัปเป้ ยิง 2 ประตูให้ทีมเยือนขึ้นนำไปก่อน แต่ บาร์ซ่า ตอบโต้คืนด้วย 4 ประตูรวดก่อนจบครึ่งแรก จาก เอริค การ์เซีย, ยามาล และ ราฟินญ่า (2 ประตู) แม้ เอ็มบัปเป้ จะทำแฮตทริกได้ในครึ่งหลัง แต่ก็ไม่สามารถพาราชันชุดขาวตีเสมอได้ ทำให้ บาร์ซ่า เป็นฝ่ายชนะ และแทบจะการันตีแชมป์ทันทีในตอนนั้น
7. บาร์ซ่า ปิดฤดูกาลอย่างสมบูรณ์แบบ
แม้จะเข้าใกล้การคว้าแชมป์ แต่ บาร์เซโลน่า ยังต้องการชัยชนะใน ดาร์บี้เมืองบาร์เซโลน่า กับ เอสปันญ่อล ที่ไม่ยอมให้คู่ปรับร่วมเมืองคว้าแชมป์ไปครองง่าย ๆ ครึ่งแรกจบ 0-0 ก่อนที่ ยามาล จะยิงเปิดหัวในนาทีที่ 53 และปิดเกมตอกย้ำชัยชนะจาก เฟร์มิน โลเปซ ในช่วงทดเจ็บ ทำให้ บาร์ซ่า คว้าแชมป์ ลาลีกา ไปครองอย่างเป็นทางการ
8. การกลับสู่เวทียุโรปของ เซลต้า บีโก้
เซลต้า บีโก้ ต้องการชนะในนัดสุดท้ายเพื่อคว้าตั๋วยุโรปครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2016/17 (เคยตกรอบรอง ยูโรป้า โดย แมนฯ ยูไนเต็ด) โดย เกตาเฟ่ นำก่อนจาก บอร์ฆา มาโยราล แต่ เซลต้า พลิกชนะด้วยประตูของ บอร์ฆา อิเกลเซียส และ ยาโก้ อัสปาส คว้าชัย 2-1 ส่งผลให้คว้าตั๋วไป ยูโรป้าลีก ฤดูกาลหน้าได้สำเร็จ
9. ความบ้าคลั่งใน บาเญกาส
ราโย บาเยกาโน่ ต้องทำผลงานให้ดีกว่าหรือเท่ากับ โอซาซูน่า เพื่อคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลหน้า โดย ราโย ต้องพบกับ มายอร์ก้า ขณะที่ โอซาซูน่า ไปเยือน อลาเบส ซึ่งคู่ของ ราโยจบ 0-0 ทำให้แฟนบอลต้องต่างติดตามผลอีกคู่ผ่านมือถือ และเมื่อสิ้นเสียงนกหวีดที่ วิกตอเรีย-กาสเตซ แฟน ราโย ฉลองกันอย่างสุดเหวี่ยง เพราะ โอซาซูน่า ทำได้แค่เสมอ 1-1 ทำให้ ราโย ได้ตั๋วไปเล่น ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ลีก เป็นการกลับสู่เวทียุโรปครั้งแรกในรอบ 25 ปี และยังปาร์ตี้ฉลองยาวถึงเช้า
10. เอสปันญอลรอดตกชั้น
ก่อนแมตช์เดย์ที่ 38 มี 2 ทีมที่ยังไม่การันตีความอยู่รอดในลีกสูงสุด เอสปันญ่อล อันดับ 17 นำ เลกาเนส ทีมอันดับ 18 อยู่เพียง 2 แต้ม โดยทั้ง 2 ทีมต่างเล่นในบ้านของตัวเอง เอสปันญ่อล เจอ ลาส พัลมาส ส่วน เลกาเนส เจอ เรอัล บายาโดลิด ซึ่งฝั่งของ เลกาเนส ทำได้ดี ยิงถึง 3 ประตูในครึ่งแรก ขณะที่ เอสปันญ่อล ยังเสมออยู่จนถึงนาที 65 ก่อน ฆาบี ปัวโด้ จะยิงจุดโทษ และปิดท้ายด้วย เปเร มีย่า ทำให้ เอสปันญ่อล ชนะ 2-0 รอดตกชั้น ส่ง เลกาเนสตก ตกชั้นไปเล่นดิวิชั่น 2
ขอบคุณเนื้อหาจาก Soccersuck.in.th
https://www.soccersuck.com/boards/topic/2574091
เว็บดูบอลออนไลน์ ลิ้งบอลสด ดูบอลสด บ้านผลบอล 7m ดูบอลฟรีแบบไม่มีสะดุดดูได้ตลอด 24 ชั่วโมง ศูนย์รวมลิงค์ดูบอล จากทั่วโลก สดทุกคู่ ครบทุกเกมส์ ดูฟรีเว็บเดียวที่มีคนดูมากที่สุด