เผยนาทีคุมตัว”สุนทร วิลาวัลย์”พร้อมพวก สอบยิง สจ.โต้ง ดับ

จากกรณีเกิดเหตุยิงกันตาย ในบ้านพักของนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี ถนนวัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี พบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ปราจีนบุรี ตรวจสอบเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุ คือ นายธนศรัณย์กรณ์ (กอล์ฟ), นายศักดิ์สิทธิ์ (ตูน) กับพวก รวม 7 คน ร่วมกันใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยี่ห้อคานิค จำนวน 1 กระบอก , อาวุธปืนลูกซอง 1 กระบอก

โดย นายชัยเมศร์ หรือ สจ.โต้ง ได้เดินทางมาที่บ้านที่เกิดเหตุ และได้พูดคุยกับนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี กับพวก จนเมื่อถึงเวลาที่เกิดเหตุ ได้มีปากเสียงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุอย่างรุนแรง นายกอล์ฟ และนายตูน จึงใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. และอาวุธปืนลูกซอง ยิง สจ.โต้ง เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ต่อมา สภ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายสุนทร วิลาวัลย์ ถึงโรงพัก พร้อมผู้ต้องหาเป็นชายอีก 6 คน สำหรับแรงจูงใจในการก่อเหตุ ยังไม่สามารถระบุได้ เบื้องต้นคาดว่าอาจจะเกี่ยวเนื่องกับการเมืองท้องถิ่นที่จะมีการเลือกตั้ง ส.อบจ.ปราจีนบุรี ในสมัยหน้า

โดยช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว นายสุนทร วิลาวัลย์ พร้อมพวกอีก 6 คนไปยัง สภ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี สังเกตุได้ว่า นายสุททร มีสีหน้ายิ้มแย้มให้กับสื่อที่มารอทำข่าวอยู่ตลอดเวลาและไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ เบื้องต้น ตำรวจได้จับแยกกันสอบปากคำ

สำหรับ “สจ.โต้ง” นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ เต็มพงษ์ ฤทธิ์เดช เป็นลูกบุญธรรมของ นายสุนทร วิลาวัลย์ และยังมีชื่อเสียงในแวดวงมวยไทย จากค่ายมวย สจ.โต้งปราจีน และ เป็น ส.อบจ.ปราจีนบุรี มาแล้วหลายสมัย

นายสุนทร วิลาวัลย์ หรือ โกทร บิดาของ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีต รมช.ศธ. เป็นนักการเมืองชาวจังหวัดปราจีนบุรี ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2526 สังกัดพรรคชาติไทย ต่อมาย้ายไปสังกัดพรรคราษฎร ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2529 จากนั้นจึงย้ายกลับมาสังกัดพรรคชาติไทยตามเดิมจนกระทั่งในปี พ.ศ. 2539 จึงย้ายมาสังกัดพรรคความหวังใหม่ และได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ

จากนั้นในปี พ.ศ. 2544 ได้เข้าร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย และสนับสนุนให้ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ บุตรสาว ลงสมัครรับเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2548


ขอบคุณเนื้อหาจาก TNews https://www.tnews.co.th/social/social-news/619074