ชาวเน็ตร่ำไห้!พ่อตัดสินใจให้ลูกสาวทำการุณยฆาต หลังทรมานจากป่วยโรคภูมิแพ้ตัวเอง

ชาวเน็ตร่ำไห้!พ่อตัดสินใจให้ลูกสาวทำการุณยฆาต หลังทรมานจากป่วยโรคภูมิแพ้ตัวเอง

เศร้า!พ่อไม่อยากเห็นลูกสาวต้องทนทุกข์ทรมานด้วยอาการป่วยด้วยโรคภูมิแพ้ตัวเอง จึงตัดสินใจยอมให้ลูกทำการุณยฆาต ด้านชาวเน็ตร่ำไห้ตาม

เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ปัจจุบันนี้ความเจ็บป่วยเรื้อรัง โรคที่ไม่มีวันหาย นอกจากจะทำลายโอกาส และส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับความทรมานแล้ว ยังส่งผลต่อครอบครัว คนที่รักที่จะต้องมาป่วยไปด้วยกับเรา อีกทั้งยังส่งผลต่อค่ารักษาพยาบาลบางโรคใช้จ่ายสูงมากอย่างมะเร็ง

ดังเหตุการณ์ที่ได้มีการแชร์กันในโลกออนไลน์ ที่ทำให้ชาวเน็ตจีนถึงกับหลั่งน้ำตา โดยเรื่องราวนี้เป็นเรื่องราวสุดสะเทือนใจของคุณพ่อคนหนึ่ง ที่ไม่อยากให้ลูกสาวเสียชีวิต แต่ต้องตัดสินใจให้ลูกสาวทำการุณยฆาต เพราะทุกข์ทรมารกับโรคที่เธอเป็นอยู่

โดยเรื่องดังกล่าวเป็นของหญิงชาวจีนรายหนึ่งที่ชื่อว่า ซาไป่ ซึ่งถือว่าเธอเป็นคนที่รู้จักในโลกออนไลน์ เพราะตัวเธอเองได้มีการแชร์เรื่องราวชีวิตของตัวเอง รวมไปถึงประสบการณ์ท่องเที่ยวสุดหรูราที่หลายๆ คนชื่นชอบ

แต่นั่นเป็นเพียงด้านเดียวที่หลายคนเห็น เพราะสุดท้ายตัวของ ซาไป่ ได้เปิดเผยว่าเธอป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ ลูปัส (Systemic Lupus Erythematosus : SLE) พร้อมบอกว่าเธอถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคดังกล่าวตั้งแต่ตอนอายุ 20 ปี และหลังจากนั้นร่างกายของเธอจะถูกโรคนี้ทำลาย

สำหรับโรคแพ้ภูมิตัวเอง คือ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะโจมตีเนื้อเยื่อที่แข็งแรงของตัวเอง ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อหลายส่วนของร่างกาย ทั้งผิวหนัง, ข้อต่อ, ไปจนถึงอวัยวะภายใน เช่น ไต หัวใจ และ ปอด ในปัจจุบัน โรคนี้ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ การรักษาส่วนใหญ่เป็นเพียงแค่การลดอาการ และป้องกันภาวะแทรกซ้อน เท่านั้น รวมไปถึงพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย

โดยในปี 2024 ซาไป่ เกิดอาการกำเริบเป็นครั้งที่ 7 และในครั้งนี้เธอต้องเจอกับภาวะแทรกซ้อน ทำให้เธอไตวายอย่างรุนแรง และต้องรับการฟอกไตอย่างต่อเนื่อง และทุกครั้งที่ฟอกไต เธอต้องทนกับความเจ็บปวดนาน 5-6 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อเธอต้องเห็นร่างกายของตัวเองแย่ลง รวมไปถึงการต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการป่วย ซาไป่ จึงตัดสินใจที่จะทำ การุณยฆาต โดยการซื้อตั๋วเครื่องบินให้กับตัวเอง และพ่อเพื่อเดินทางไปที่สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อที่ให้ทั้งคู่ได้ใช้เวลาร่วมกันในช่วงสุดท้ายของชีวิต

สำหรับพ่อของซาไป่ มีอาชีพเป็นครู และอยู่เคียงข้างลูกสาวของเขามาโดยตลอด แต่เมื่อรู้ถึงการตัดสินใจครั้งนี้ของลุกตัวเอง เขาใช้เวลานานกว่าจะยอมรับมันได้ แต่สุดท้ายเขาก็ยอมรับมันได้ เนื่องจากเขาไม่ต้องการเห็นลูกสาวต้องทรมานจากความเจ็บปวดอีกต่อไป

โดย5 วันก่อนการุณยฆาต ทั้งสองคนได้เดินทางไปเที่ยวด้วยกัน ทั้งชมหิมะตก และถ่ายภาพเป็นที่ระลึกและโพสต์ลงไปในช่องตัวเอง ซึ่งเธออยากให้พ่อดูแลสุขภาพตัวเอง เมื่อเธอจากไปแล้ว

คลิปดังกล่าวทำให้ชาวเน็ตนับล้านต้องหลั่งน้ำตา บางคนสนับสนุนการตัดสินใจของ ซาไป่ แต่บางคนก็ตั้งข้อถกเถียงกับเรื่องนี้

สุดท้าย เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา ซาไป่ ก็ได้จากโลกนี้ไปแล้วอย่างเป็นทางการ ซึ่งช่องทางโซเชียลมีเดียของเธอทั้งหมดถูกเปลี่ยนเป็นสีดำ และคลิปทั้งหมดก็ถูกลบหายไป

อย่างไรก็ตาม ปัญหาการการุณยฆาตเป็นหัวข้อที่มีการถกเถียงกันอย่างมากทั้งในสังคมและวงการกฎหมาย ทำให้เกิดคำถามอันลึกซึ้งเกี่ยวกับสิทธิในการมีชีวิต สิทธิที่จะตาย บทบาทของรัฐ และศีลธรรมส่วนบุคคล ในบริบทของกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ปัญหานี้มีความซับซ้อนและหลากหลายมิติมากยิ่งขึ้น

บางประเทศได้ออกกฎหมายการการุณยฆาตภายใต้เงื่อนไขบางประการ ในขณะที่บางประเทศยังคงห้ามการการุณยฆาตโดยสิ้นเชิง การทำให้การุณยฆาตถูกต้องตามกฎหมายมักมาพร้อมกับกฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับเงื่อนไข ขั้นตอน และการกำกับดูแล

ขอบคุณ: www.saostar.vn


ขอบคุณเนื้อหาจาก เดลินิวส์ https://www.dailynews.co.th/news/4307548/