“เมย์ วาสนา” แฉ “ดิว” เปิดแชท ยืมของค้ำประกัน ติดหนี้ “ซุง” 20 ล้าน

โดย “เมย์ วาสนา” เปิดใจถึงประเด็น “ดาราสาว” ยืมของหรู มูลค่ากว่า 62 ล้าน ผ่าน “โหนกระแส” ว่า… รู้จักดิวเพราะเขาอยากผลิตสินค้า เมื่อ 2 ปีก่อน ในฐานะลูกค้า สั่งผลิตสินค้า เขาติดต่อเราคนเดียว แต่มารู้ทีหลังว่าเขามีพาทเนอร์เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว

เขาไม่ได้ลงทุนกับเรา แต่เขาเป็นลูกค้า จ้างให้บริษัทเราผลิตสินค้า มัดจำ 22 ล้าน โอนมา 2 ครั้ง โอนมาในนามบริษัท ภายหลังมาทราบบริษัทที่ดิวลงทุน เป็นของพาทเนอร์ลงทุน 100% ไม่ใช่เงินของดิว

ประเด็นยืมของ 6 สค. 2567 ดิวโทรไลน์มาบอกว่าเดือดร้อน ติดหนี้ “ซุง ศตาวิน” 20 ล้าน บอกว่าถ้าไม่ได้คืน จะเดือดร้อนจะโดนแฉ เพราะน้องมีสัญญากู้ยืมเงิน ถามเขาว่าไม่ยืมสามีเหรอ ตัวเองไม่มีเหรอ เขาบอกว่ายืมแค่ 20 วัน ซึ่งในทางปฏิบัติเป็นไปไม่ได้ เพราะยังติดหนี้บริษัทอยู่เลย เพราะเงินจ่ายบริษัท ต่อ บริษัท มันเป็นไปไม่ได้

จากนั้นเขาเลยถามว่าพอมีให้ยืมไหม 20 วัน (พูดแบบนี้ไม่กลัวโดนฟ้องเหรอ?) มันถึงจุดมาแล้ว อยากให้ทุกอย่างจบ แค่อยากได้ของคืน

เคยตั้งใจว่าจะไม่ให้ใครยืมเงิน เขาถามว่ามีอย่างอื่นให้ยืมไหม ก็ถามเขาว่าแล้วของดิวละ เขาบอกว่า บอกสามีไม่ได้ เขาท้องลูกคนที่ 2 อยู่เครียดมาก กลัวจะแท้ง เราก็คิดว่าถ้ายืมของก็น่าจะได้คืนกว่า คือดิว รู้จักกัน เห็นบ้าน เห็นของที่เขาใช้ อย่างน้อยแย่ๆ เขาก็ขอสามีมาคืน คือต้นทุนทางสังคมเขาดีมาก เห็นเขาใช้ชีวิตมาแบบนี้ มั่นใจว่าเขาไม่น่าจะกล้าเสียชื่อเสียง

เขาบอกว่าของที่ยืม จะเอาของไปให้พี่คนนึงที่น่าเชื่อถือมากๆ ที่รู้จักกับซุง เป็นผู้ใหญ่ ของพี่เมย์จะฝากไว้ที่พี่คนนี้เป็นอย่างดี เราบอกว่าอย่าไปเก็บที่ซุงนะ ไม่งั้นจะไม่ได้คืน ซึ่งเขายืนยันว่าของอยู่ที่พี่คนนี้เพื่อเป็นการค้ำประกันกับซุง ซึ่งให้ของกับดิว ครั้งแรกเป็นกระเป๋า 2 ใบ กับสร้อยบูการี 15 ล้าน จากนั้นเป็นสร้อยโลตัส 26 ล้าน (ประมูลมาชิ้นเดียวในโลก) สุดท้ายเป็นนาฬิกา ราคา 13 ล้านกว่า เขาบอกว่าซุงไม่ยอม เพราะราคาไม่พอ คือเราจะช่วยก็ช่วยให้พ้น เพราะเราเคยอยู่ในจุดที่ลำบาก เคยไปโรงรับจำนำ ก็เลยเพิ่มของให้เขา ในระยะเวลา 2 วัน

สร้อยมันเด่นมาก ถ้าหลุดไปรู้เลยว่าเป็นของเมย์ และจะเกิดคำครหา ก็ย้ำว่า ห้ามเอาของพี่ไปจำนำ และขายเด็ดขาดนะ ซึ่งมันมีข่าวแบบนั้น จนเมย์เสียภาพลักษณ์ จนถึงบริษัท และโดนเรียกสอบหมดเลย คนที่รู้จักเราจริงๆเราเป็นแบบนั้น เราซีเรียสเรื่องเครดิต (อ่านแชทดิวตอนที่ทักขอยืม)

โดยมีระยะเวลาให้ยืม 20 วัน แต่ไม่ได้คืน จนตามของคืน เขาบอกว่ายังไม่ได้เงิน เลยยังไม่ได้ไปเอาของคืน คือเราตามได้ก็ตามเรื่อยๆ จนถึงเดือนมกราคม จนมาเอ๊ะใจตอนข่าวเลขาคดีโกงเงิน เลยมาเอ๊ะน้องมีปัญหาการเงินรุนแรงด้วยหรือ ซึ่งเราเตรียมข้อมูลเพื่อแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ และถามตรงๆว่าเริ่มมีผู้เสียหายมา ของพี่จะได้คืนไหม จนเขายอมรับว่าเขาเอาของเราไปจำนำ

ตอนแรกได้ยินมาจากรุ่นน้องว่าของโดนเอาไปจำนำ ก็เลยไปถามเขา ซึ่งเขาก็บอกเราตรงๆว่าไปจำนำกี่แห่ง แต่ไม่บอกว่าที่ไหน จนเราจี้ถาม จนถึงวันนี้ก็ยังไม่บอก จนถึงวันที่ 24 ยอมรับว่าไปเอามาจริงๆ ให้เราไปเอาของคืน แล้วเขาจะจ่ายเราเอง (ทนาย : ตอนนี้มีของชิ้นนึงอยู่กับนักการเมือง ตำแหน่งนรัฐมนตรี)

ก็ยืดเวลาให้เขาหายใจ ให้เขาแก้ปัญหา ไม่ได้อยากทำลายชื่อเสียง แต่สุดท้ายก็ต้องมีเรื่อง จน 28 ก.พ. เขาบอกว่าพี่เมย์ กระเป๋า นาฬิกาจะออกมาก่อน ก็จะประวิงเวลาไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ไม่ได้ของคืน จนเขาเสนอว่าให้เราไปเอาของคืนก่อน แล้วเขาจะเป็นหนี้เราแทน เจตนาเราอยากได้ของคืน ไม่ได้อยากได้ดอกเบี้ย ก็มีข้อบันทึกตกลงกัน แต่สุดท้ายเขาก็ทำไม่ได้ ถ้าพี่ไม่ได้คืนจริงๆพี่ก็จะสู้เอาของพี่คืน แต่เขาก็เลือกเอง เมย์ก็เลยขอคุยกับทนายก่อน เราโดนหลอกมาตั้งแต่วันแรกเลยเหรอ

เมย์โพสต์ 15 มีนาคม เราทราบข้อเท็จจริงวันที่ 14 เห็นแชทวันที่ 18 เป็นแชทน้องกับดิว เอาสร้อยไปวางกับน้องคนนี้ เปิดมาก็รู้ว่าของใคร ในแชทบอกว่า เราลำบาก ไม่มีเงินจ่ายซัพพลายเออร์ เขาดิสเครดิตเรา แม้ว่าไม่มีชื่อเรา แต่ก็รู้ว่าเป็นเรา เรารู้สึกว่าเราโง่ (เสียงสั่น) ดิวทำกับคนที่ช่วยเหลือดิวได้ไง เป็นมนุษย์แม่เหมือนกัน มันไม่ได้ สุดท้ายมาเจอใบแจ้งความ

เรารู้จักร้านที่รับไป เพราะเราให้เกียรติ จนเรามารู้ความจริงจากแชท และดีเอ็มหาน้องคนนั้น ซึ่งคนนั้นรอการติดต่อมาตลอด เพราะเขาถูกอ้าง ดิวกล่าวหาว่าเมย์ลำบาก ไม่มีเงิน ซึ่งร้านรู้ว่าเป็นของเมย์ เขากลัวตอนเห็นข่าว เลยไปลงบันทึกประจำวัน 20 ม.ค. เพราะกลัวว่าเรื่องนี้จะถึงตัวเขา (หนุ่ม : อ่านใบแจ้งความ) ซึ่งของบางส่วนรู้แล้วอยู่ที่ใคร ขอให้ติดต่อมาเพื่อหาทางออกกัน

เมย์มีหลักฐาน ไม่ได้ให้เอาไปจำนำ มีทั้งบันทึกกล้อง มีคลิปเสียง ภาพทุกอย่าง ยืนยันไม่ได้ให้เอาไปจำนำ ไม่ได้เอาไปเปลี่ยนทรัพย์ ที่มาออกโหนกระแส เพราะอยากได้ของคืน

เรื่อง “ซุง ศตาวิน” พยายามติดต่อมาตลอด ตั้งแต่วันที่ 14 -15 แต่ทางเขาบอกว่าโนคอมเมนต์ คงไม่อยากให้ข้อมูล หรือยังไม่รู้ข้อเท็จจริง เมย์ยืนยันว่ามีชื่อน้องจริงๆ ตั้งแต่เริ่ม

เรื่องนี้มีหลายชื่อมากกับเรื่องนี้ มีการเอาสินค้าไปขายเร่ หลายที่ กระเป๋าเราไม่เคยใช้ด้วยซ้ำ ระหว่าง 1 เดือนที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าเหมือนทำให้ตัวเองถูกทั้งหมด พยายามโน้มน้าวให้เราเป็นแบบนั้น เลยรู้สึกว่าไม่คุยดีกว่า คุยทีไรเสร็จทุกที


ขอบคุณเนื้อหาจาก คมชัดลึกออนไลน์ https://www.komchadluek.net/entertainment/599479