ราชทัณฑ์มอบสำเนาประวัติการรักษา “บุ้ง ทะลุวัง”ให้ทนาย แจงปมอาการป่วยจนถึงเสียชีวิต

ราชทัณฑ์มอบสำเนาประวัติการรักษา

กรมราชทัณฑ์ มอบสำเนาประวัติการรักษาให้ทนาย”บุ้ง ทะลุวัง”แล้ว พร้อมพาสื่อเยี่ยมชมสถานที่ภายในทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ แจงปมอาการป่วยจนถึงเสียชีวิต 

น.ส.วีรดา คงธนกุลโรจน์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากพี่สาวของน.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ทะลุวัง ได้เดินทางเข้ารับเอกสารสำเนาประวัติการรักษา ณ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ต่อมาในเวลา 10.00 น. ได้นำคณะสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เข้าเยี่ยมชมสถานที่ภายในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อสร้างความเข้าใจ และให้เห็นสถานที่จริงขณะที่ น.ส.เนติพรฯ เข้ารับการรักษาโดยแพทย์จากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์

ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เป็นเรือนจำที่ทำหน้าที่พิเศษคือ คุมขังและให้การรักษาผู้ต้องขังเจ็บป่วย ที่ถูกส่งตัวมาจากเรือนจำต่างๆ เมื่อรักษาจนอาการดีขึ้นแล้ว ก็จะส่งตัวกลับไปคุมขังที่เรือนจำเดิม โดยในกรณีของ น.ส.เนติพรฯ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 แพทย์มีความเห็นว่ามีภาวะเลือดเป็นกรดจากการอดอาหาร และเกลือแร่โพแทสเซียมในเลือดต่ำ ต่อมากรมราชทัณฑ์ได้รับหนังสือจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 แจ้งให้รับตัวน.ส.เนติพรฯกลับทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ อาการโดยรวมของน.ส.เนติพรฯ ดีขึ้น รู้สึกตัวดี ไม่มีคลื่นไส้อาเจียน ไม่มีอาการใจสั่น ไม่มีเวียนศีรษะหน้ามืด ไม่มีอาการแสดงของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ สัญญาณชีพและความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ

ในการนี้ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้รับตัวน.ส.เนติพรฯ กลับมาในวันที่ 4 เมษายน 2567 โดยหลังกลับจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯน.ส.เนติพรฯ จิบน้ำได้ แต่ยังคงปฏิเสธอาหาร โดยเริ่มรับประทานอาหารมื้อแรก คือมื้อเย็นของวันที่ 13 เมษายน 2567 น.ส.เนติพรฯ ยังปฏิเสธการรับประทานเกลือแร่โพแทสเซียมและวิตามิน จึงยังมีภาวะเกลือแร่โพแทสเซียมต่ำทีมสหสาขาวิชาชีพของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ให้คำแนะนำ ดูแลใกล้ชิดและติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งระดับเกลือแร่เพิ่มขึ้น น.ส.เนติพรฯ สามารถทำกิจวัตรประจำวันและเดินเข้าห้องน้ำได้เอง แพทย์มีความเห็นว่าให้จำหน่าย เป็นผู้ป่วยพักฟื้นแต่ยังคงต้องเฝ้าระวังและติดตามอาการเป็นระยะ และจัดให้นอนในห้องเดียวกับน.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ในห้องผู้ป่วย พักฟื้น ชั้น 2 ของหอผู้ป่วยหญิง จนกระทั่งเกิดอาการหัวใจหยุดเต้นฉับพลัน จึงนำตัวลงมายังห้อง ICU ชั้น 1 โดยทางทีมแพทย์ได้ทำการกู้ชีพ พร้อมนวดหัวใจ และให้ยากระตุ้นหัวใจอย่างต่อเนื่อง จากนั้นจึงส่งตัวไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ และแพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิติในเวลาต่อมา

โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยังคงมีข้อห่วงใย ในเรื่องนี้ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม จึงได้นำคณะสื่อมวลชน แขนงต่างๆ เข้าเยี่ยมชมสถานที่จริงขณะที่น.ส.เนติพรฯ รับการดูแลรักษาก่อนส่งตัวออกโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ พร้อมขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตเป็นอย่างยิ่ง


ขอบคุณเนื้อหาจาก The Better https://www.thebetter.co.th/news/news/17255