
“สนธิ” ประเมิน การเมืองใกล้สุกงอม ลั่นไม่อยากลงถนน แต่ถ้าจำเป็นจะทำ
“สนธิ” ร่วมเวที“ความจริง มีหนึ่งเดียว เพื่อชาติ ครั้งที่ 4” ประเมินการเมืองใกล้สุกงอม บอกไม่อยากลงถนน แต่ถ้าจำเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตก็ยอม เล็งเข้าพบขอคำตอบ”นายกฯ” นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โดยนายสนธิ เผยก่อนเข้าร่วมงาน“ความจริง มีหนึ่งเดียว เพื่อชาติ ครั้งที่ 4” ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ถึงการประกาศทิศทางทางการเมืองในการจัดงานครั้งนี้ว่า หลักๆแล้ว ผู้ปราศรัยแต่ละคน จะมีประเด็นที่พูดถึงสังคมและชาติบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็น MOU 44 กฎหมายใหม่ข้อตกลงใหม่ของ WHO องค์กรอนามัยโลกจะเป็นผลร้ายต่อประเทศอย่างไร และส่วนตัวจะเป็นคนพูดสรุปปิดท้าย พยายามชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาไม่จำเป็นว่าจะเป็นรัฐบาลการเมืองหรือรัฐบาลทหาร ยังมีปัญหาที่คนไทยทุกคนต้องทนกับมันมาตลอด โดยไม่มีใครเข้ามาแก้ไข กระบวนการยุติธรรมที่ล้มเหลวทุกอย่าง โดยจะยกตัวอย่างหลายเรื่องเช่นกรณีทนายตั้ม การฉ้อโกงที่มีมากอย่างผิดปกติ เรื่อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังไม่จบ เรื่องเขากระโดง และตั้งคำถามถามว่าเราอยากจะอยู่ในประเทศนี้หรือไม่ จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปหรือต้องหาวิธีคิดที่จะทำอะไร เพื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงประเทศ นายสนธิ ยังประเมินสถานการณ์การเมือง ณ […]
อ่านต่อ
“สามารถ” ขู่ฟ้องคนพาดพิง ปัดเจ้าของเสียงคลิปหลุด คุย ผู้บริหาร “ดิไอคอนกรุ๊ป”
“สามารถ” ปัด เป็นคนในคลิปเสียงนักการเมือง คุย ผู้บริหาร เคลียร์คดี ดิไอคอนกรุ๊ป ขู่ฟ้องคนพาดพิง “สามารถ” ปัด เป็นคนในคลิปเสียงนักการเมือง คุย ผู้บริหาร เคลียร์คดี ดิไอคอนกรุ๊ป ขู่ฟ้องคนพาดพิง นายสามารถ เจนชัยจิตวนิช รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เผย กรณีมีการเผยแพร่คลิปเสียงเรียกรับทรัพย์จากผู้ต้องหาในคดี บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) สถาผู้แทนราษฎร ว่า ยืนยันชัดเจนว่าไม่ใช่เป็นเสียงของตนเอง และหากใครมาพาดพิงหรือกล่าวหา ตนจะดำเนินการทางกฎหมายทันที ตอนนี้ตนเอง อยู่ที่ต่างประเทศ หากสื่อช่องไหนต้องการจะสัมภาษณ์หรือข้อมูลเพิ่มเติมรอให้ตนเองกลับไปก่อน ถามว่า รู้จักกับบอสพอลหรือไม่ นายสามารถ กล่าวว่า เคยเห็นรูปตนเองถ่ายคู่กับบอสพอลหรือไม่ ก่อนจะวางสายไป ขอบคุณเนื้อหาจาก The Better https://www.thebetter.co.th/news/news/22676
อ่านต่อ
เปิดประวัติ “อัยการสูงสุด”สั่งฟ้อง “ทักษิณ”คดี 112
เปิดประวัติ “อำนาจ เจตน์เจริญรักษ์” อัยการสูงสุด ผู้สั่งฟ้อง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดมาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กลายเป็นบุคคลที่น่าสนใจขึ้นมาทันที หลัง “อำนาจ เจตน์เจริญรักษ์” อัยการสูงสุด มีคําสั่งฟ้อง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีในความผิดมาตรา 112 กรณีให้สัมภาษณ์ ที่ประเทศเกาหลี เมื่อปี 2559 และ ความผิด พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ “อำนาจ “เกิดวันที่ 16 พฤศจิกายน 2501 อายุ 65 ปี จบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เนติบัณฑิต สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา นิติศาสตรมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เส้นทางรับราชการ บรรจุเป็นอัยการผู้ช่วย กองคดีอาญา จากนั้นขยับเป็นอัยการจังหวัดผู้ช่วย จังหวัดชุมพร ก่อนเป็นอัยการประจำกรม กองคดีอาญากอง 6 ต่อจากนั้น ขยับเป็นอัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการพิเศษ […]
อ่านต่อ
“แอมมี่” โดนคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา คดีหมิ่นเบื้องสูง
ศาลอาญา สั่งจำคุก “แอมมี่” 4 ปี ” คดีหมิ่นเบื้องสูง -วางเพลิง ส่วน “ปูน ทะลุฟ้า” โดน 1 ปี ไม่รอลงอาญา ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.1199/64 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ฟ้อง นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์ ศิลปินและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง และ นายธนพัฒน์ กาเพ็ง หรือ ปูน ทะลุฟ้า เป็นจำเลย 1-2 ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ,มาตรา 217 ฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯพ.ศ.2550 มาตรา 14 (3) โดยอัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อคืนวันที่ 28 ก.พ.2564 จำเลยกับพวกได้ร่วมกันวางเพลิง โดยใช้น้ำมันก๊าดราดใส่ และจุดไฟเผาพระบรมฉายาลักษณ์ ซึ่งประดิษฐานติดตั้งบริเวณหน้าเรือนจำกลางคลองเปรมได้รับความเสียหาย นับเป็นการแสดงอาฆาตมาดร้าย […]
อ่านต่อ
ราชทัณฑ์มอบสำเนาประวัติการรักษา “บุ้ง ทะลุวัง”ให้ทนาย แจงปมอาการป่วยจนถึงเสียชีวิต
กรมราชทัณฑ์ มอบสำเนาประวัติการรักษาให้ทนาย”บุ้ง ทะลุวัง”แล้ว พร้อมพาสื่อเยี่ยมชมสถานที่ภายในทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ แจงปมอาการป่วยจนถึงเสียชีวิต น.ส.วีรดา คงธนกุลโรจน์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากพี่สาวของน.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ทะลุวัง ได้เดินทางเข้ารับเอกสารสำเนาประวัติการรักษา ณ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อมาในเวลา 10.00 น. ได้นำคณะสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เข้าเยี่ยมชมสถานที่ภายในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อสร้างความเข้าใจ และให้เห็นสถานที่จริงขณะที่ น.ส.เนติพรฯ เข้ารับการรักษาโดยแพทย์จากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เป็นเรือนจำที่ทำหน้าที่พิเศษคือ คุมขังและให้การรักษาผู้ต้องขังเจ็บป่วย ที่ถูกส่งตัวมาจากเรือนจำต่างๆ เมื่อรักษาจนอาการดีขึ้นแล้ว ก็จะส่งตัวกลับไปคุมขังที่เรือนจำเดิม โดยในกรณีของ น.ส.เนติพรฯ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 แพทย์มีความเห็นว่ามีภาวะเลือดเป็นกรดจากการอดอาหาร และเกลือแร่โพแทสเซียมในเลือดต่ำ ต่อมากรมราชทัณฑ์ได้รับหนังสือจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 แจ้งให้รับตัวน.ส.เนติพรฯกลับทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ อาการโดยรวมของน.ส.เนติพรฯ ดีขึ้น รู้สึกตัวดี ไม่มีคลื่นไส้อาเจียน ไม่มีอาการใจสั่น ไม่มีเวียนศีรษะหน้ามืด ไม่มีอาการแสดงของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ สัญญาณชีพและความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ […]
อ่านต่อ
เช็กประกาศล่าสุด “พายุฤดูร้อน” 54 จังหวัด รับมือด่วน! “กทม.” โดนด้วย
กรมอุตุฯ เตือน ฉบับที่ 11 พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทย 6- 7 พ.ค. 54 จังหวัด รับมือ ฝนคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางแห่ง อาจมีฟ้าผ่า กทม. โดนด้วย ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 11 (89/2567)(มีผลกระทบจนถึงวันที่ 7 พฤษภาคม 2567) ในช่วงวันที่ 6 – 7 พ.ค. 67 จะมีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้บริเวณดังกล่าว มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นหลายพื้นที่ โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร และอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 8 – […]
อ่านต่อ
“แพทองธาร” มั่นใจรัฐบาลอยู่ครบ 4 ปี เชื่อประชาชนให้คะแนนเต็ม 10 ไม่หัก ลั่นต้องใช้เวลาพิสูจน์
“อุ๊งอิ๊ง”มั่นใจรบ. อยู่ครบ 4 ปี เชื่อประชาชนให้คะแนนเต็ม 10 บอกแม้คู่แข่งพยายามสร้างวาทะกรรม ไม่ถนักเกมตอบโต้ ใช้ผลงานพิสูจน์ตัวเอง มั่นใจนโยบายผลักดันเศรษฐกิจประเทศ พรรคเพื่อไทย จัดงาน 10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10 เพื่อแสดงวิสัยทัศน์และความคืบหน้านโยบายต่างๆ ของพรรคเพื่อไทย หลังจากจัดตั้งรัฐบาลเข้าสู่เดือนที่ 9 พร้อมประกาศเป้าหมายการทำงานในอนาคตโดยภายในงาน มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คณะรัฐมนตรี สัดส่วนของพรรคเพื่อไทย กรรมการบริหารพรรค ผู้บริหารพรรค, สส.,ว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดของพรรคเพื่อไทย และ บุคลากรของพรรค เข้าร่วมงาน โดย น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ “เติมเพื่อไทยให้เต็ม 10 สนับสนุนรัฐบาลเปลี่ยน ว่า ในนามหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เราคิดไม่ผิดตัดสินใจถูกต้องที่มีการจัดตั้งรัฐบาลผสมเพราะมีปัญหาที่มากมาย หลังจากที่เราเข้ามาเป็นรัฐบาลได้เห็นถึงปัญหาที่สะสมมานาน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่การปฏิวัติรัฐประหาร 2 ครั้งใช้เวลาไปเกือบสองทศวรรษ เช่น ปัญหาระบบราชการที่ใหญ่โตเกินไปทำให้การทำงานไม่พร้อม สำหรับการปรับตัวในยุคปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยี เศรษฐกิจ […]
อ่านต่อ
“บิ๊กโจ๊ก” บุก ป.ป.ช.กล่าวหา”นายกฯ” ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ให้ออกจากราชการ
“บิ๊กโจ๊ก” บุกป.ป.ช. กล่าวหานายกรัฐมนตรี ปม ให้ออกจากราชการ ลั่นเดินหน้าสู้ต่อเรียกร้องความเป็นธรรม ชี้ กระบวนการสอบสวน ไม่ถูกต้อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อยื่นหนังสือถึงนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังจากที่ตนเองถูกดำเนินคดีและเข้าสู่ขบวนการสอบสวนอย่างไม่เป็นธรรม นาน 6 เดือน จนถึงขั้นให้ออกจากราชการไว้ก่อน วันนี้ตนจึงต้องออกมาต่อสู้เพื่อตัวเอง จะเน้นในเรื่องของคดีอาญาที่มีการดำเนินการโดยมิชอบ จะไม่พูดถึงสำนวนคดีว่าใครผิด ใครถูก พร้อมกางหลักฐานขบวนการสอบสวน โดยระบุว่า ในคดีนี้เริ่มจากการดำเนินคดีกับลูกน้องตนทั้ง 8 และมีการขยายผลมายังตนและลูกน้อง รวม 5 คน ท้ายที่สุดทาง ป.ป.ช. มีมติเรียกกลับสำนวน เพราะเป็นคดีที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งตามกระบวนการตำรวจมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นและส่งให้ ป.ป.ช. ภายใน 30 วัน โดยไม่ได้มีหน้าที่ในการสอบสวน หรือออกหมายเรียก หรือขอศาลออกหมายจับ ปรากฏว่าหลังจากนั้นพนักงานสอบสวนกลับมีการทยอยแบ่งสำนวนกันทำ ทั้งที่เป็นเส้นเงินเดียวกัน ผู้ต้องหากลุ่มเดียวกัน และเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งต้องส่ง ป.ป.ช. ในคราวเดียวกัน […]
อ่านต่อ
ศาลรธน. รับคำร้องยุบก้าวไกลแล้ว ให้แก้ข้อกล่าวหาใน 15 วัน
ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องยุบก้าวไกล ปมล้มล้างการปกครอง ไว้พิจารณาแล้ว ให้แก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง คณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล (เรื่องพิจารณาที่ 10/2567) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ร้อง) โดยนายทะเบียนพรรคการเมืองยื่นคำร้องกรณีมีหลักฐาน อันควรเชื่อว่าพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้อง) มีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคผู้ถูกร้องตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 256- มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) ซึ่งข้อเท็จจริง ปรากฏตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคผู้ถูกร้อง เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลผู้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้อง และห้ามมิให้ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้องและถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ภายในกำหนดสิบปีนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคผู้ถูกร้อง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคสอง และมาตรา 94 วรรคสอง ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า เป็นกรณีที่ผู้ร้องมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พรรคผู้ถูกร้องกระทำการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) […]
อ่านต่อ
กกต.ยัน พิจารณาคำร้องยุบ”ก้าวไกล-ภูมิใจไทย” ไม่ล่าช้า
ประธาน กกต.ยันพิจารณาคำร้องยุบพรรคก้าวไกล ไม่ล่าช้า เร่งศึกษาคำวิจฉัยศาลรธน.ฉบับสมบูรณ์ ส่วน ยุบภูมิใจไทย ยังอยู่ในขั้นพิจารณานายทะเบียนพรรคการเมือง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องยุบพรรคก้าวไกลและพรรคภูมิใจไทยว่า ในส่วนของพรรคก้าวไกล หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเมื่อ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา กกต.ขอให้สำนักงานกกต.และนายทะเบียนพรรคการเมืองไปศึกษาคำวินิจฉัยและตัวบทของพ.ร.ป.พรรคการเมืองว่า จะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง จากนั้นสำนักงานฯ ได้เสนอผลการศึกษาเบื้องต้น ซึ่งเห็นพ้องกันว่าจะต้องนำเอาคำวินิจฉัยฉบับสมบูรณ์มาประกอบการพิจารณาเสนอความเห็นด้วย “คำวินิจฉัยฉบับสมบูรณ์ศาลรัฐธรรมนูญประกาศออกมาเมื่อวันที่ 29 ก.พ.ผ่านทางราชกิจจานุเบกษา ดังนั้น สำนักงานฯ ต้องนำคำวินิจฉัยไปพิจารณาประกอบความเห็นที่ศึกษาไว้ก่อนหน้านี้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ไม่มีกรอบเวลา แต่กระบวนการนี้คงใช้เวลาไม่มาก จะดำเนินการได้ ไม่ชักช้า” ประธานกกต. กล่าว ส่วนคำร้องยุบพรรคภูมิใจไทย นายอิทธิพร กล่าวว่า กกต.ได้รับคำร้อง โดยเรื่องนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของนายทะเบียนพรรคการเมืองว่าคำร้อง ข้อเท็จจริงตามที่มีอยู่นั้น ถือว่ามีมูลหรือไม่ หากเห็นว่ามีมูลก็จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อเสนอความเห็น หากเห็นว่ามีมูลจะต้องตั้งคณะกรรมการไต่สวนก่อนที่จะเสนอความเห็นต่อกกต. เรื่องนี้จะดำเนินการโดยไม่ล่าช้า ซึ่งตามกฎหมายกำหนดไว้ 30 วัน หรือ 60 วัน แต่ก็ต่ออายุได้ เพราะกระบวนการนอกจากรวบรวมข้อมูลแล้ว ยังต้องมีการเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูล โดยหลักเราพยายามทำในกรอบเวลาไม่ให้ล่าช้า ขอบคุณเนื้อหาจาก The […]
อ่านต่อ